จากมุมมองลูกค้า ทำไม TOT3G ถึงสมควรเจ๊ง

วันนี้มีข่าวว่า TOT ยอมแพ้แล้วกับสงครามมือถือ 3G และแผนเอาตัวรอดในอนาคตคือการเข้าร่วมมือกับ AIS และบริษัทลูก ที่อาจส่งผลทำให้ AIS กลายเป็นค่ายมือถือที่มีคลื่นอยู่ในกำมือสูงถึง 30MHz

สำหรับผม ในฐานะที่เป็นลูกค้า TOT3G คนหนึ่ง (มีซิมไว้ใช้กับ iPad เผื่อเวลาเครือข่ายอื่นล่ม เช่น ตอนไปคอนเสิร์ตต่าง ๆ) ขอออกมาอธิบายให้ทุกคนรู้ ว่าทำไมไอ้ TOT3G นี้มันสมควรจะเจ๊งตั้งแต่แรก ในฐานะที่เป็นลูกค้า

1 - ลูกค้าหาข้อมูลค่าบริการ และโปรโมชั่นยากมาก

อย่างแรกเลยต้องว่าเรื่องการให้ข้อมูลลูกค้า ซึ่งแย่มาก สำหรับหลาย ๆ คน อาจจะไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่า เมืองไทยจริง ๆ แล้วมีค่ายมือถือหลัก ๆ อยู่ 5 ค่าย เพราะว่าไอ้ 2 ค่ายที่เป็นรัฐวิสาหกิจมันทำงานได้สมควรแก่การสูญพันธุ์เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องข้อมูล

การหาข้อมูลต่าง ๆ เรื่องโปรโมชั่น และค่าโทรแทบจะทำไม่ได้บนอินเทอร์เน็ต ที่ตลกกว่าก็คือเมื่อโทรไปถามพนักงาน พนักงานแทบจะโยนเรื่องให้เข้าไปที่สาขา TOT ตลอดเวลา ด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยพอใจ ราวกับว่าตัวเองยังเป็นข้าราชการอยู่ (ซึ่งเอาจริง ๆ ข้าราชการต้องบริการประชาชนให้ดี)

บนหน้าเว็บ สามารถหา "ชื่อโปรโมชั่น" ได้ แต่รายละเอียดอื่น ๆ ให้ไปดูที่สาขาเองนะจ๊ะ

2 - พอไปที่สาขาเพื่อไปเปิดใช้บริการ ก็ไม่สามารถเปิดให้บริการได้ทันที

เมื่อต้องการไปเปิดใช้บริการ TOT3G ที่สาขา พบว่าลูกค้ายังจะต้องกรอกข้อมูลยิบย่อยเยอะแยะมาก บนเอกสารที่ดูไม่ค่อยเป็นระเบียบเท่าไหร่ นั่นก็คือให้กรอกข้อมูลบนแบบฟอร์มที่ถูกถ่ายเอกสารมาอีกที ตัวหนังสือไม่ค่อยชัด และเลอะเลือนพอสมควร

ที่เจ๋งกว่าก็คือลูกค้าไม่สามารถเลือกได้ว่าจะใช้วิธีจ่ายเงินด้วยวิธีไหน ณ เวลาที่เปิดใช้บริการ คือลูกค้าจะต้องรอจนกว่าจะได้รับบิลครั้งแรกส่งถึงที่บ้าน (กรณี Postpaid) เพื่อที่จะได้รับ "รหัสลูกค้า" เสียก่อน หลังจากนั้น ลูกค้าจะต้องกลับมาทำเรื่องที่สาขา ว่าจะให้ตัดผ่านบัญชีธนาคาร หรืออย่างไร

แต่ที่เด็ดที่สุด ที่ไม่คิดว่าจะมีแบบนี้อีกในปี 2557 ก็คือลูกค้าที่เปิดใช้บริการ ยังไม่สามารถใช้บริการได้ทันที ต้องรอประมาณ 10 ชั่วโมงอย่างต่ำ หรือไม่ก็วันถัดไป ถึงจะสามารถใช้บริการได้


3 - ไม่มี nanoSIM 

... ข้อนี้ไม่รู้จะพูดอย่างไร เพราะองค์กรนี้เขานึกว่าตัวเองอยู่ในปี 2005 ...

เวลาขอเป็น nanoSIM เราก็จะได้รับซิมการ์ดที่ใช้วิธีตัดเอาด้วยกรรไกร ซึ่งสำหรับมือถือบางยี่ห้อแล้ว การยัดซิมการ์ดนี้เข้าไปอาจจะทำให้ตัวการ์ดมันค้างอยู่ในถาดใส่ซิมเลย

TOT3G เครือข่ายที่เชี่ยวชาญในการตัด nanoSIM ที่สุดในประเทศไทย

4 - ไม่มีการจ่ายค่าบริการผ่านบัตรเครดิตอัตโนมัติ

จ่ายเงินผ่านบัตรเครดิต สามารถทำได้ผ่านหน้าเว็บ TOT e-Service ที่มีหน้าตาการใช้งานที่โคตรน่าสับสนถึงที่สุด ไม่มีการแยกว่าลูกค้าเป็นลูกค้ามือถือ หรือลูกค้าโทรศัพท์บ้าน แถมเวลาจ่ายบิลด้วยผ่านบัตรเครดิตบนหน้าเว็บแล้ว จะพบว่าระบบ "ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าลูกค้าจ่ายบิลไปแล้วหรือยัง จนกว่าจะครบ 3 วันทำการ" เพราะฉะนั้นถ้าใครจ่ายเงินผ่านบัตรเครดิตวันจันทร์ แต่อยากจะไปขอปิดเบอร์วันพุธที่สาขา พนักงานจะบอกว่า "คุณยังค้างค่าบริการจำนวน xxxx"


5 - เป็นบริษัทที่ไม่ค่อยอยากได้เงินลูกค้า

นอกจากจะขอใช้บริการยาก และจ่ายเงินยากแล้ว โอกาสที่เราจะอยากจ่ายเงินให้ TOT คือเมื่อเราอยู่ในเขตที่มีแต่ TOT Wi-Fi เท่านั้น และไม่มี Wi-Fi ยี่ห้ออื่นบริการในเขตนั้น ๆ ปัญหาที่พบทันที คือเรามีเบอร์ TOT3G แต่เรากลับไม่สามารถที่จะซื้อชั่วโมง Wi-Fi ของ TOT ได้ โดยที่หักค่าบริการผ่านบิล TOT3G ซึ่งหากเป็นค่ายมือถืออื่น ๆ เราสามารถจะขอซื้อชั่วโมง Wi-Fi ผ่านทางเบอร์มือถือ แทบได้ทันที

เป็นลูกค้า อยากใช้บริการเขา แต่เขาเหมือนจะไม่อยากให้บริการเราจริง ๆ ทั้งเรื่อง Service Mind และเรื่องความสะดวกในการ "จ่ายเงิน"

มีสินค้าให้บริการ แต่ไม่อยากให้บริการครับ

แต่อย่าลืมว่า TOT3G ก็มีข้อดีอยู่สองข้อ ที่เครือข่ายอื่นมิอาจจะสู้ได้เลย

นั่นก็คือ TOT3G เป็นเครือข่าย "ที่ว่างที่สุดในประเทศไทย" และด้วยเหตุผลนี้ ทำให้ TOT3G มีความเร็วอินเทอร์เน็ตเฉลี่ยค่อนข้างมั่นคง ไม่เร็วปร้าดปู้ด แต่ก็ไม่เคยช้ากว่า 2Mbps แทบจะตลอดเวลา ข้อดีอีกข้อ คือด้วยความที่ TOT3G แทบจะไม่มีลูกค้า ทำให้เราไม่ได้รับ SMS ขยะเลยครับ

เรื่องนี้เรื่องจริงครับ เพราะ TOT 3G "ว่างที่สุดในประเทศไทย"